วันอังคารที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2553

ไขปริศนาเจ้า 472


เรื่องราว 472 กับผม เริ่มจากเมื่อปลายปีเดือนธันวาฯที่ผ่านมานี้เอง ได้มีโอกาสฟังแล้วหวนคิดถึง 484 ที่เคยมีและจากไปกว่าสิบปี.. ขอเล่าความประทับใจเมื่อแรกใส่ลองหูฟัง ความรู้สึกแรกคือเสียงดังต้องลดโวลุ่มลงอย่างไว โทนเสียงที่จืดชืดไม่มีรสชาติเรียบเฟรตของมัน ฟังไปก็จะรู้สึกเพิ่มเข้ามาถึงเนื้อเสียงอิมเมจตัวเสียงที่ใหญ่อิ่มแน่นเนียนสะอาดต่อเนื่องลื่นไหลเป็นกลางของทุกย่านเสียง ออกละมุนละไมได้ อิมแพ็กไดนามิกสมจริง โทนเสียงมันพอดี ฟังเป็นธรรมชาติอธิบายได้ยาก ฟังแล้วไม่อยากถอด อยากฟังไปเรื่อยๆ ณ เวลานั้น ..พอกลับมาฟังหูฟังตัวอื่นๆกลายเป็นรู้สึกว่า เสียงมันเกินจริงไปซะทุกตัว 55.. นึกไปเทียบถึงลำโพงมอนิเตอร์ที่แนวเสียงสะอาดเป็นกลางเที่ยงตรงถ่ายทอดทุกรายละเอียด สำหรับอิมเมจตัวเสียงมิติเวที ก็รู้สึกเหมือนอยู่ในวงใกล้ชิดกับนักร้องนักดนตรี เหมือนอย่างหู HiFiMan RE2 ผมว่าสองตัวนี้ใส่สลับกันฟัง ไปกันแบบกลืนๆเลย คนละแบบกับที่รู้สึกว่าเป็นผู้ชม ที่นั่งฟังอยู่ห่างเวทีออกมาอย่างเจ้า 888 ...จึงเกิดความอยากที่จะได้ครอบครอง และราคาไม่ได้แรงมากอย่าง 484 ในปัจจุบัน และเห็นข่าวว่าไดร์เวอร์เดียวกัน ..มองหาอยู่ทุกวันตั้งแต่นั้น หลุดพลาดไปก็หลายตัว ด้วยสภาพ, ราคา และความเร็ว ...แล้วผมก็มารีบคว้าจากกระทู้หนึ่งที่พันทิปฯ ด้วยเห็นว่าสภาพดีเดิมๆ และราคาก็ดี(แรง)ที่สุดละ ไงก็ขอสภาพดีไว้ก่อนจะได้เก็บไว้ฟังใช้กันยาวๆ..

http://www.pantip.com/tech/gadget/topic/TM2879955/TM2879955.html

...ช่วงสายของวันนั้น... ครั้งแรกที่ใส่ฟัง.. ผมผิดหวังอย่างแรง เสียงของมันฟุ้งบางเบลอหาอิมเมจโฟกัสไม่เจอ ผิดกับสภาพภายนอกที่ดูดีเหมือนใหม่ ...ใส่ฟังลองทั้งวันกลายเป็นคนบุคคลิกเสีย ต้องคอยจับขยับหูฟังเพื่อหากอิมเมจโฟกัสตลอดเวลา..55 ..ตกเย็นทนไม่ไหว โทรหาพี่ที่พึ่งรู้จักกัน(คนที่ให้ลอง 472 ตอนธันวาฯ) ให้ช่วยดู กว่าจะว่างเจอกันก็สี่ทุ่มกว่า แกใส่ฟังครั้งแรก บอกมันกลับเฟตฯ ?.. ผมก็นึกขึ้นทันทีเลยว่า..........เฮ้ยยยใช่......... ไหงเราลืมประเด็นนี้ได้ ตกม้าตายเลย คงอาจเพราะเห็นว่าสภาพมันเดิมๆ ไม่น่าผิดพลาดมาจากโรงงาน นี่ผมยังคิดว่าถึงแม้นสภาพภายนอกดูดี แต่ตัวแม่เหล็กลำโพงอาจเสื่อมสภาพไปแล้วก็เป็นได้ เสียงมันจึงฟังดูไม่มีไดนามิกซ์ ลองจับเอาหน้าลำโพงชนกัน มีแรงผลักของแม่เหล็กน้อยบางมาก ไม่เหมือนอาเหมยฯ EP10 ที่พึ่งได้มา ..นึกไม่ถึงเลย ...ตัดสินใจให้แกแกะแก้ไข ตรวจดูก็เห็นว่าการต่อขั้วก็ถูกต้องเป็นปกติทั้งสองข้าง นึกแปลกใจ ไงก็ลองต่อสลับ +, - กลับไปมาทั้งสองข้าง เลือกเอาที่โอที่สุด ....ฟังดูใหม่ อิ่มเมจโฟกัสเสียงมีเนื้อดีขึ้น แต่รู้สึกยังไม่เต็มร้อย ฟังเหมือนกับเฟตเสียงสองข้างยังไม่แนบสนิท มีอาการเบลอลอยอยู่ เราก็สรุปว่าไม่รู้ว่ามันถูกต่อฟังแบบกลับเฟตนี้มานานแค่ไหนแล้ว ก็ให้ฟังเบิร์นไปเรื่อยๆคงจะดีขึ้นเป็นลำดับ (หวังว่า..)

ผมก็พยายามเปิดฟังบ่อยๆ ถึงตอนนี้ก็รู้สึกว่าดีขึ้นอีกเล็กน้อย ระหว่างนี้ก็มีความคิดว่าจะหาหูที่ขาดคู่มาลองเปลี่ยนดู จึงสอบถามปรึกษาที่บอร์ดพันทิปฯ แล้วก็ได้มา เข้าคู่กันได้เป็นอย่างดี เสียงดีกว่าเดิมมาก จึงได้มีโอกาสฟังเสียงอันเรียบเนื้อแน่นเข้มสะอาด ณ เวลานี้.. นึกแล้วก็เซ็งที่ต้องแก้ไข มองอีกมุมมันก็ทำให้ผมลุยมาได้ถึงขณะนี้.....

เมื่ออยู่กินทำความรู้จักกันมาได้สักระยะหนึ่ง ผมก็พอจับทางมันได้ ตัวของผมที่จับคู่ใหม่นี้ ฟังทุกๆวันก็เริ่มรู้สึกว่า เสียงกลางเสียงคนร้องเสียงเครื่องดนตรี เนื้อเสียงมันอิ่มแน่นเข้มข้นพุ่งจริงจัง พื้นเสียง รายละเอียดรายรอบตัวเสียงเวทียังขาดความโปร่งใส ทำให้รายละเอียดบรรยากาศของตัวเสียง เวที อารมณ์ของเครื่องดนตรียังขาดไปหน่อย จึงทำให้รู้สึกว่ามิติเวทีเสียงไม่ค่อยมีความลึก หากเปิดดัง เสียงกลางทำเอาพุ่งจัดได้ ฟังกับเพลงแนวร็อคได้ดี ได้เสียงเครื่องดนตรีที่แน่นเข้มข้มจริงจังสดสมจริง บรรยากาศมิติเวทีเหมือนเราอยู่กลางวง ร่วมแสดงบนเวที หรืออยู่ร่วมในห้องซ้อม อย่างใกล้ชิด ..ลักษณะของเสียงโทนทุ้มก็ไปทางสะอาด รายละเอียดดี โทนเสียงกลางเนื้อเสียงก็อย่างที่เล่าไปเรียบสะอาดอิ่มแน่นเนื้อเนียนเข้มข้นพุ่งจริงจัง โทนแหลมเรียบสะอาดเนื้อละเอียดใสเนียนไปได้ไกลสุด คุณค่ารวมผมว่าเป็นหูฟังอ้างอิงมอนิเตอร์ระดับตำนาน

เพลงเดียวกันเมื่อฟังเทียบกับ 484 ตัวที่ผมมี สมดุลโทนลักษณะเอกลักษณ์ของเสียงแทบจะคล้ายกัน จะต่างกันด้านความโปร่งใสของตัวเสียงและบรรยากาศเวทีเสียง ทำให้รู้สึกว่าเนื้อเสียงได้ลดความแน่นเข้มข้นชัดลงอยู่ในระดับที่พอดี เป็นผลให้ได้อิมเมจโฟกัสตำแหน่งชิ้นดนตรีในวงก่อตัวเห็นชัดเจนขึ้น และได้ยินเสียงรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ เสียงบรรยากาศรายรอบตัวเสียงหลักอย่างสมจริงเป็นธรรมชาติ สำหรับให้รูปวงเวทีของเสียงจะไปกันคนละทาง ..472 จะให้รูปวงเวทีแบบปกติทั่วไปที่อยู่ในแนวระนาบของหู ส่วน 484 จะให้รูปวงเวทีที่คล้อยหลัง คือรู้สึกถึงตำแหน่งเครื่องชิ้นดนตรีตรึงอยู่บริเวณหลังหัวหลังใบหูออกไป เหมือนฟังเปิดเฉพาะลำโพงเซอร์ราวน์่ของระบบโฮมเธียร์เตอร์ ไม่ได้อยู่ในแนวระนาบใบหูเหมือนอย่างหูฟังทั่วๆไป เสียงร้องก่อตัวขึ้นรูปรู้สึกได้ชัดว่ามีตำแหน่งอยู่หลังหัว ให้บรรยากาศเวทีพื้นเสียงที่โปร่งใสได้มิติลึกขึ้น ทำให้รู้สึกว่าอยู่ใกล้กับตัวเสียง ได้ยินรายละเอียดรายรอบตัวเสียงและบรรยากาศเวทีครบถ้วน เช่น เสียงสูดลมหายใจของนักร้อง เสียงลูกคอ เสียงลมลอดไรฟัน เสียงฆ้อนของเปียโนที่เคาะสายที่ขึงอยู่ดัง..กึ๊กๆๆ..ก่อนที่จะมีเสียงกำทอนกังวานของสายออกมาต่อเนื่องจากเสียงฆ้อนที่เคาะนั้น เสียงก้องบรรยากาศของห้องอัดเสียง เสียงฮาโมนิกส์กำทอนกังวานของสายกีต้า เสียงลอดลมและเสียงกระทบกันของตัวรูปิดช่องกดโน๊ตของแซ็กโซโฟน ฯลฯ... มาแบบครบถ้วนให้ได้ยินอย่างเป็นธรรมชาติของเสียงที่ถูกบันทึกถ่ายทอดออกมา ด้วยความโปร่งใสและคล้อยหลัง ทำให้เนื้อเสียงความเข้มข้นแน่นลดลงไม่พุ่งจริงจัง ฟังผ่อนคลายขึ้น เสียงแหลมปลายจึงฟังดูโปร่งใสละเอียดขึ้นอีก นั้นเป็นความเห็น ความแตกต่างของสองรุ่นนี้ เฉพาะหูฟังที่ผมมีอยู่นี้เท่านั้น..

ด้วยความสงสัยจากข่าวที่ว่าสองรุ่นนี้ใช้ไดรเวอร์ตัวเดียวกัน ไหงผมฟังได้ต่างกันเช่นนั้น ผมก็ยืนกระต่ายขาเดียวเสียเลยว่าคนละตัว ฮ่าๆๆ.. ด้วยเครดิตของแหล่งข่าว ผมก็มีแอบเชื่ออยู่ว่าตัวเดียวกัน เนื่องจากหากฟังแค่โทน เสียงมันก็คล้ายกันมาก เมื่อมีโอกาสจึงร้องขอท่านคนบนดาวเคราะห์ฯ ให้แกะตัวที่เสียให้ชม ท่านจึงจัดมาที่ http://www.pantip.com/tech/gadget/topic/TM2893966/TM2893966.html จากรูปเมื่อสังเกตเห็นแผ่นจูนเสียงสีดำ ที่มีช่องเปิดให้เสียงออกมากอยู่ด้านหนึ่ง ..อ้าว..แล้วไดรเวอร์ตัวที่เรารับมานั้นมันข้างไหนหล่ะ หากเป็นข้างเดียวกัน เวลาใส่ช่องเปิดเสียงมันก็จะอยู่คนละด้านกันสิ ด้วยความสงสัยที่เริ่มเปี่ยมล้น จึงตัดสินใจแกะดู......

ตามรูป.. ตัวที่ผมรับมาคือไดรเวอร์ข้างซ้าย สังเกตที่ช่องว้อยซ์คอยล์ ซึ่งเมื่อนำใส่ลงเคสหูฟัง ปกติจะวางช่องนี้อยู่ด้านล่างแนวเดียวกับก้านหูฟัง และเมื่อใส่ฟังที่หูซ้ายช่องเปิดเสียงของแผ่นจูนดำนั้น ก็จะหันไปข้างหน้าตำแหน่งใกล้รูหูพอดี เสียงที่ได้จึงฟังดูพุ่งเนื่อเสียงเข้มข้นแน่นชัด คล้ายกับเราโทอินฯในลำโพงบ้าน มิติเวทีเสียงเป็นแบบปกติอยู่ในแนวระนาบของหูทั้งสองข้่าง



ผมฟังอยู่ระยะหนึ่ง สลับกับ 484.... รู้สึกหงุดหงิดกับเสียงกลางเสียงร้องที่พุ่งขุ่นทุกครั้งที่ฟัง พื้นเสียงขาดความโปร่งใส ขุ่น ทำให้ไม่ค่อยได้ยินรายละเอียดรายรอบตัวเสียง เสียงบรรยากาศในเวทีและเครื่องดนตรีอย่างครบถ้วน ต่างจากเจ้า 484 ที่ให้มาครบถ้วน ให้บรรยากาศ อารมณ์เพลงดนตรี ที่ครบถ้วนสมบูรณ์กว่า ..จนวันหนึ่งบอกกับตัวเองว่า พอแล้วไม่ใช่แนว ม้วนกะเก็บเข้ากรุ และสรุปยืนกระต่ายขาเดียวว่า ไดร์เวอร์คนละตัว..ชัวร์

ไหนๆก็ไหนๆ ให้หายสงสัย จึงนำ 484 มาเปิดดู ...แล้วก็เห็นที่ผิดสังเกตตามอย่างในรูป..



มิน่า...ทำไมเวทีถึงคล้อยหลัง จึงลองนำ 472 มาใส่สลับข้างเพื่อให้ช่องเสียงเปิดให้ไปอยู่ด้านหลังอย่าง 484 ..ก็ได้เสียงที่โปร่งขึ้น มิติเวทีก็ไปอย่างเดียวกันเลย น่าทึ่งจริงกับผู้ออกแบบปรับจูนฯ ..แต่อย่างไรก็ตามตัวที่ผมมี เจ้า 484 ฟังจะมีคุณภาพที่สูงกว่า ดูเหมือนกับว่าไดรเวอร์เดียวกัน แต่จับคู่คัดเกรดแยกกันไปใช้ในแต่ละรุ่น ข้อนี้สันนิษฐานเอาเอง ...ที่เขียนบอกเล่ามาทั้งหมดเกิดจากการเปรียบเทียบเฉพาะหูฟังที่ผมมีใช้อยู่เท่านั้น

อ่อ..สองพี่น้องนี้ก่อนเปิดฟังควรลดโวลุ่มที่เครื่องเล่นลงให้สุดก่อนเสมอ ไม่งั้นหูแตกหรือไดรเวอร์หลุดเบ้าเอาได้ เนื่องด้วยประสิทธิภาพความไวมันสูงมากกว่าหูฟังทุกตัวที่เคยฟัง ขับง่ายยังกับลำโพงบ้านที่มีความไว 95 dB. เสียงมันก็มีเสน่ห์ที่ขาดและแทนกันไม่ได้ควรมีไว้ทั้งสองตัวครับผม

ใครมีใช้อยู่ก็ลองใส่สลับข้างกันดู ว่าเสียงมันจะแปลงร่างสลับรุ่นกันได้หรือไม่ แล้วมาเล่าให้กันฟังด้วยครับ ..สำหรับ 888 ลองถอดนวมฟองน้ำใส่สลับข้างฟัง ผมว่าได้บรรยากาศดีไปอีกแบบ จากที่ไม่ใส่นวมแล้วฟังไม่ได้ ก็กลายเป็นฟังได้ดี เสียงดังขึ้นกินวัตต์น้อยลง มิติเวทีก็ต่างออกไปคล้าย 484 ..หากใส่ปกติจะเหมือนกับเราเป็นผู้นั่งชมห่างออกมา พอใส่สลับข้างก็จะเหมือนเป็นนักดนตีอยู่บนเวที หากจะให้ผลที่ตรงกัน ก็ให้หันช่องเปิดให้ตรงองศาตำแหน่งด้วย เนื่องจากเมื่อใส่ปกติ ก้านหูฟังจะเอียง 45 องศา หากทดลองใส่สลับข้างตัวก้านหูฟังก็ต้องเอียงไปอีกด้าน (ก้านชี้ไป่ด้านหลัง 45 องศา) เช่นกัน.. ลองดูครับ



5 ความคิดเห็น:

  1. ได้ความรู้มากเลยคะ กลับมาเขียนใหม่สิคะ รออ่านๆ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แหม.. ไงหลงเข้ามาได้ครับคุณแมว :)

      ลบ
  2. ตั้งใจเข้ามาอ่านค่ะ บ่ ได้หลงเน้อ :)

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณมากครับพี่วัฒน์

    ตอบลบ
  4. Hi, I am very excited about this, but I cannot really understand it because the translator is not that good. Can you summerize it to me in English? So the main point is to put the driver of the 472 in a different angle and then it becomes almost as good as the 484?
    Thanks in advance!

    ตอบลบ