วันพุธที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2553

SamLaw (Bose In-Ear Experience!)


"เรื่องเล่านี้ผมโพสที่บอร์ดมั่นคงฯตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. 2552 ถือโอกาสนำมาเก็บบันทึกไว้ด้วยเลย"

จากบทวิจารณ์ของคุณไมตรีฯ ผมก็ได้หูฟังโซนี่อี 484 มาฟัง ใช้มากว่าสิบปีก็มาพังลงกับมือ ส่งซ่อมรออยู่ปีเต็มได้แต่เงินใช้คืนมาหนึ่งพัน นำไปซื้อ อี 848 ใช้ได้สามเดือนพังอีก(มดกัด) ต่อมาก็ได้เซ็นฯ PX200 มาฟัง ใช้มาได้สามปี ฟองน้ำผุหมดสภาพ ก็เลยมองไปที่หูฟังแบบอินเอียร์ฯ อีกครั้ง เพราะพกพาสะดวกสวมใส่สบาย ...แล้วก็มาถึงเรื่องปวดหัวกันอีกครั้ง ทุกครั้งก็คิดหนัก อยากได้เสียงแบบ 484 หรือเสียงดีคุ้มค่าฯ ปัญหาคือร้านส่วนใหญ่ไม่มีให้ลองฟัง ตอน 848 ก็ไม่ได้ลองอาศัยดูโหง้วเฮ๊งเลขมันสลับกัน พอ PX200 ได้ลองฟังและยี่ห้อก็มีชื่ออยู่แล้ว เสียงก็ใช้ได้นิ่มใส ส่วนยี่ห้ออื่นๆ ไม่มีให้ลองเปรียบเทียบก็เลยได้มา.. ทั้งหมดเนี่ย หาให้เธอใช้

หาข้อมูลในเว็บ มาเจอเว็บมั่นคงฯ โอ้โห..มีให้ลองฟังแทบทุกรุ่น ข้อมูลครบครัน แจ๋วหล่ะทีนี้ ส่งตัวแทนไปฟัง ส่วนเธอก็หาข้อมูลและเล็งโบสฯ ไว้ก่อนแล้ว ..มาเล่าให้ฟังว่าลองโบสฯ แล้วทางร้านก็แนะนำให้ลองฟังอีกสองสามรุ่น น่าจะเป็น YUIN, Raptor, NuForce.. เสียงก็ดีพอๆกัน ส่วนเธอก็ทึ่งโบสฯ ที่ให้เสียงนุ่มใหญ่เกินตัว ฟังตัวอื่นแล้วเสียงเล็กไปหมด แต่ก็กั๊กๆ กับค่าตัวที่สูงเอาการ และอยากให้ผมได้ฟังก่อนตัดสินใจในครั้งนี้

กลับเชียงใหม่จัดแจงโทรติดต่อตัวแทนจำหน่ายแล้วไปฟังกัน ..ทันทีที่ผมสอดหูฟังเข้ารูหูและกดเพลย์ฯ โอ้โห.... เสียงเหมือนกดปุ่ม Loudness สองครั้ง คือปุ่มเดียวไม่พอขอเบิ้ลฯด้วยอีกปุ่ม โทนเสียงโดดเด่นที่เสียงโทนต่ำที่นุ่มลึก เสียงกลางเสียงร้องนุ่มอิ่มมี่ขนาดตัวเสียงที่ใหญ่เนื้อเสียงโปร่งพอดีไม่แน่น เสียงแหลมมีโทนสดใสตัวเสียงหรือเกรนเสียงที่เล็กดูเป็นเนื้อเดียว เฮ้อ!..แต่หาแทบไม่เจอ รวมๆ แล้วดาร์คฯ มากๆ เมื่อฟังแฟรทฯ โทนโดยรวมไปทางกลางต่ำสดใสน้อย ไม่น่าเชื่อว่าโบสฯจะจูนเสียงออกมาแนวนี้ ออกจากร้านด้วยความผิดหวัง และก็กั๊ก.. ร้านได้แนะนำให้ไปลองฟัง Shure และ JBL ที่มหาจักรฯ.. พออีกวันก็แวะไปฟังกัน.. ลอง JBL รุ่นเล็กสุดมั้งจำไม่ได้ที่ราคาสามพันกว่า ส่วน Shure มีสแตนด์ฯ ตัวเดโมฯ ให้ฟังครบทุกรุ่น ราคาเริ่มตั้งแต่สี่พันยันสองหมื่น เยี่ยมจริงๆ.. เสียงก็ดีเด่นกันคนละแนว ชอบเสียง JBL ฟังเสียงร้องเสียงเครื่องดนตรีมีเนื้ออิ่มเรียบพอดีๆได้อารมณ์ เป็นกลางดี ส่วนชัวร์ฯ ตัวสองหมื่นก็ครบเครื่อง เร้นท์ที่กว้างทั้งปลายทุ้มปลายแหลม ราคาสูงไปหน่อยหากได้สักสี่ห้าพันนี่คิดหนักเลย..

วันต่อมา..อืมมม!!... เอาไงดี เสียดายที่ผมไม่มีโอกาสได้ฟังยี่ห้ออื่นๆ ตามที่หาข้อมูลไว้ ..ใจก็คิดถึงโบสฯ แต่ก็กั๊กๆ ที่ฟังแบบแฟรทฯ แทบไม่ได้ แต่ผมก็นึกทึ่งในเสียงทุ้มที่นุ่มลึกนั้น เสียงกลางที่อิ่มใหญ่ และทึ่งที่ให้ตัวเสียงได้ใหญ่เกินตัวหยั่งกับฟังหูฟังแบบครอบหู ขนาดเสียงทุ้มแรงขนาดนั้นตัวลำโพงยังไม่สำลัก มันรองรับกำลังขับได้ดี สะท้อนถึงคุณภาพของดอกลำโพง แต่เสียงแหลมนี่สิให้มาน้อยจริง

...ปิ๊งง!..นึกออกละ ตกลงว่าจะไปลองฟังกันอีกครั้ง ทีนี้หากจูนแล้วชอบก็จะพาเข้าบ้านเลย... ไปขอลองฟังอีกครั้ง ผมก็ฟังไปปรับอีคิวฯไป ใช้เครื่องเล่นของโซนี่ที่มีอยู่ห้าแบนด์ฯ ปรับฟังอยู่กว่าครึ่งชั่วโมง.. โอเค!..ลองไปอยู่ด้วยกันดู ถึงตอนนี้ก็ฟังมาได้สองสัปดาห์ เสียงเพลงเพราะฟังเพลินทุกครั้งที่ฟัง

ภาพอีคิวฯ จาก Windows Media Player ดูคล้ายเกย์หน้าปัดเครื่องบินที่แสดงว่ากำลังเลี้ยวเอียงไปทางซ้าย เมื่อจูนเสียงแหลมยกขึ้นและลดทุ้มลงให้มีความพอดีกลมกลืนกับเสียงกลาง ทำให้โทนเสียงกลมกล่อมขึ้น ลักษณะเสียงแหลมมีโทนเสียงที่สดใสมีเกรนฯ เนื้อเสียงที่ละเอียดเล็กติดฉ่ำได้ ทำให้ฟังดูกลืนกับเสียงกลางเป็นเนื้อเดียวกัน ให้โทนเสียงกลางมีความโปร่งเนียนเนื้อเสียงพอดีๆ และเสียงแหลมแบบนี้ฟังได้นานไม่ล้าหู

สรุป Bose In-Ear Gen. III ในความเห็นผม เป็นหูฟังที่ต้องใช้ร่วมกับอีคิวฯ ให้โทนเสียงไปทางกลางต่ำ เสียงอิ่มนุ่มลึก ให้ตัวเสียงร้อง เสียงเครื่องดนตรีมีขนาดใหญ่ แนวอนาล็อกฯ คล้ายฟังจากเครื่องหลอดฯ ฟังได้นานไม่ล้าหู ใส่สบายไม่อึดอัดเหมาะกับ Music Lover ครับ


*ปล. เป็นความเห็นของผมแต่เพียงผู้เดียว และหวังว่าเรื่องเล่านี้คงพอจะเป็นประโยชน์บ้างกับผู้ที่ต้องการข้อมูลเช่นเดียวกับผม

สามล้อ,

**มีต่อตอนสอง..** http://sam-law.blogspot.com/2010/03/samlaw-bose-in-ear-experience-2.html

(24 มี.ค. 53)

"..ตอนนี้ผมคงชินกับเสียงของมัน ลดอีคิวแค่ช่วงเบส ส่วนแหลมก็ปล่อยไว้พอดีกับสีสันของมัน ..เป็นหูฟังที่วิจัยพัฒนาขึ้นมาเพื่อบรรลุคอนเซ็ปเพื่อความผ่อนคลายอย่างแท้จริง ใส่เบาสบายรูหูกว่าเอียร์บัดฯ ด้วยยางซิลิโคนเนื้อนิ่ม ไม่เก็บเสียง ..เมื่อตัดสินใจจับใส่หูแล้วก็ไม่ต้องนึกกังวลกับการจับผิดเสียงที่สมจริงเที่ยงตรงอะไรแบบนั้น ด้วยเสียงที่มีสีสันเอาอกเอาใจหูที่อยากได้ยิน โทนเสียงที่นุ่มหนักอิ่มอบอุ่นแหลมปลายเนื้อเสียงละเอียดเล็กสดใสฉ่ำ ส่วนแหลมต้นเบาลง ทำให้ไม่มีคำว่าเสียงจัดบาด ..ให้เร้นท์เสียงที่กว้างสะอาด เหมือนได้สูดอากาศบริสุทธิสดชื่น ฟังเหมือนระบบที่มีซับวูฟเฟอร์ใช้ร่วมด้วย ให้บรรยากาศคอนเสิร์ตแสดงสดได้ดีมาก ฟังแล้วรู้สึกเหมือนเราทะลุมิติไปอยู่ท่ามกลางผู้ชมฯ เสียงของมันฟังเหมือนกับการได้ยินเสียงเครื่องดนตรีที่ผ่านไมล์ฯเข้ามิกเซอร์ เครื่องขยาย และออกสู่ลำโพง คือถูกปรับจูนแต่งเสียงออกมาเพื่อการฟังสนุก มิติเวทีบรรยากาศอารมณ์เพลงมาแบบครบเครื่อง อิมเมจตัวเสียงให้จินตนาการเป็นรูปวงดนตรี เวทีกว้างลึกกำลังดี ไม่เหมาะกับแนวร๊อคฯ ผมมักปล่อยไก่จากมันประจำ แบบว่าเผลอร้องเพลง เคาะโต๊ะ ขยับเท้าตาม หรือไม่ก็หลับสบายไปเลย 55.."


"ผมสงสัยว่า... ข้างในเจ้ากระเปราะวงรีใกล้แจ็คนั้น น่าจะมีวงจรฯแบบพาสซีฟฯเพื่อตกแต่งจูนความถี่ให้เสียงเป็นเอกลักษณ์ตามที่ต้องการ เสียงมันไม่น่าจะมาจากการขับตรงจากตัวไดรเวอร์เพียวๆ"


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น